วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

การทำก๋วยจั๊บน้ำข้น.!!

การทำก๋วยจั๊บน้ำข้น..สูตรอร่อย.!!
"ก๋วยจั๊บน้ำข้น" อีกเมนูอาหารจานเดียวที่อร่อยเด็ดและได้คุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วนในจาน เดียว เอกลักษณ์ของก๊วยจั๊บน้ำข้นนั้นอยู่ที่เครื่องมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็น หมูกรอบ ไส้หมู ตับหมู ปอดหมู เต้าหู้ทอด ไข่ต้ม ปอด และหนังหมู และก๋วยจั๊บก็เป็นเช่นเดียวกับก๋วยเตี๋ยว สามารถปรุงรสได้ตามใจชอบ ด้วยน้ำซุปที่เข้มข้นปรุงรสอีกนิดหน่อยหรือแทบไม่ต้องปรุงเลย จึงทำให้ถูกปากถูกใจได้ไม่ยาก ที่มีสูตรก๋วยจั๊บน้ำข้นดังนี้...



 เครื่องปรุง..
  1. เส้นก๋วยจั๊บ 1 กิโลกรัม
  2. ตับหมู ½ กิโลกรัม
  3. ไส้ใหญ่หมู ½ กิโลกรัม
  4. ปอดหมู 2 พวง
  5. หนังหมู ½ กิโลกรัม
  6. เต้าหู้ทอด 2 พวง
  7. หมูกรอบชิ้นยาว 2 ชิ้น
  8. พริกไทยขาวเป็นเม็ด 30 เม็ด
  9. แป้งข้าวเจ้า 10 ช้อนโต๊ะ
  10. ไข่ต้ม 20 ฟอง
  11. กระเทียมบุบ 6 หัว
  12. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  13. เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
  14. ซ๊อิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  15. ซิ๊วดำ ½ ช้อนโต๊ะ


 วิธีขั้นตอนการทำ
1. ก่อนอื่นให้เตรียมเส้นก๋วยจั๊บก่อน โดยการนำเส้นก๊วยจั๊บมาต้มกับน้ำซุปจนกระทั่งเส้นนิ่มได้ที่แล้วให้นำแป้ง ข้าวเจ้ามาละลายกับน้ำใส่ลงเคี่ยวในหม้อให้ข้นแต่อย่าให้เหนียว ปิดไฟพักไว้
2. จากนั้นหันมาทำน้ำพะโล้ด้วยการต้มน้ำ ใส่กระดูกหมูลงไปเคี่ยวสักครู่พอให้หวานน้ำต้มกระดูกหมู จากนั้นให้ใส่โป๊ยกั๊ก รากผักชี อบเชย พริกไทยเม็ด กระเทียมบุบพอแหลก เกลือ น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำ ตามด้วยเครื่องในหมู ได้แก่ ตับหมู ปอดหมู หนังหมู และไข่ต้มลงไป เคี่ยวต่อไปด้วยไฟอ่อน รอจนตับหมูเริ่มสุกให้ตักขึ้นมาก่อน เนื่องจากตับจะเป็นส่วนที่สุกเร็วที่สุด นอกนั้นให้เคี่ยวต่อไปจนเปื่อยแล้วจึงค่อยตักขึ้นมาใส่ในภาชนะเตรียมขาย หรือจะนำใส่ในตะแกรงโลหะแขวนไว้บนหม้อต้มให้ได้รับความร้อนตลอดเวลาก็ได้ เพียงเท่านี้ก็ได้ก๋วยจั๊บรสเด็ดแล้ว..



 Email:taajook@hotmail.com

วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

สูตร..การทำราดหน้า

วิธีทำราดหน้าให้อร่อย สูตรราดหน้ารสเด็ด ทำกินได้ ทำขายรวย

ราดหน้า ถือเป็นอาหารยอดฮิตที่เป็นที่นิยมของคนไทยอย่างหนึ่ง ด้วยจุดเด่นที่มีความอร่อยถูกปาก สามารถปรุงแต่งรสชาติเพิ่มเติมได้ตามใจ และยังหากินได้ง่าย มีขายแทบจะทุกที่เลยก็ว่าได้ แต่หลายคนก็มักจะพากันสงสัย ว่าการกินราดหน้าที่ร้านนั้นอร่อยจริง แต่พอขอวิธีทำเขามาทำกินเองบ้างทำไมไม่อร่อยแบบนั้นก็ไม่รู้ ดังนั้นวันนี้เราจึงมีสูตรการทำราดหน้าให้อร่อยถูกปากมาฝากกันค่ะ



วัตถุดิบ

  1. หมูสันในหั่นชิ้นพอดีคำ ประมาณ 2 ขีด หรือใครที่ไม่ชอบเนื้อหมูอาจเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์ชนิดอื่นได้ เช่น ไก่ กุ้ง ปลาหมึก เป็นต้น
  2. ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ประมาณ 3 ขีด
  3. คะน้าหั่นพอดีคำประมาณ 2 – 3 ต้น
  4. เต้าเจี้ยวดำ/กระเทียม สับละเอียดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ / ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมันพืชประมาณ 1/4 ถ้วย
  8. แป้งข้าวโพดประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
  9. พริกไทยป่นและน้ำตาลทรายป่นอย่างละ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำซุป
  11. พริกชี้ฟ้าหั่นแว่น

ขั้นตอนการทำ
ผสมซีอิ๊วขาวและน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน นำหมูหรือเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไปหมัก เติมพริกไทยป่นเล็กน้อย พร้อมนวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เพื่อซึมซับเข้าไปในเนื้อหมูให้ได้มากที่สุดนำเส้นก๋วยเตี๋ยวคลี่ออกไม่ให้เส้นติดกัน จากนั้นหั่นผักคะน้าเป็นท่อน ท่อนละประมาณ 1 1/2 นิ้ว โดยหั่นแบบโคนเฉียงนำกระทะขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ความร้อนปานกลาง จากนั้นเติมน้ำมันพืชลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำเส้นก๋วยเตี๋ยวลงไปผัดกับซีอิ๊วดำ ผัดจนเส้นสุกและเข้ากับซีอิ๊ว แล้วตักพักไว้ตั้งกระทะใหม่โดยใช้ไฟปานกลางเช่นกัน เติมเต้าเจี้ยวสับผสมกับกระเทียมที่เตรียมไว้ลงไปผัด ตามด้วยผักคะน้า และเนื้อหมู 
แต่เคล็ดลับก็คือให้ผัดพอเนื้อสุกเท่านั้นก็ให้เทน้ำซุปลงไปประมาณ 2 ถ้วย จากนั้นเมื่อน้ำซุปเริ่มร้อนให้ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลาเมื่อน้ำซุปเริ่มเดือดให้เติมแป้งข้าวโพด ซึ่งจะช่วยให้น้ำซุปนั้นข้น ระหว่างการเติมนั้นต้องคอยคนน้ำซุปอยู่ตลอด เมื่อเห็นว่าข้นเหนียวดีแล้วให้นำไปราดบนเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เตรียมไว้ ยกเสิร์ฟได้ทันทีเคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งก็คือในระหว่างเติมแป้งข้าวโพดนั้นอาจเกิดการเหนียวข้นมากจนเกินไปของน้ำซุป ดังนั้นแนะนำให้คนแป้งกับน้ำจนละลายเสียก่อนค่อยเทลงไปผสมในกระทะอีกที จะช่วยไม่ให้น้ำซุปเกิดความข้นเหนียวมากจนเกินไป แค่นี้เราก็จะได้ราดหน้าร้อนๆ สูตรอร่อย ที่พร้อมรับประทานกันแล้วค่ะ พร้อมพิสูจน์ความอร่อยด้วยฝีมือคุณ /
Email:taajook@gmail.com

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

สูตร..ไก่ห่อใบเตย

   สูตร..ไก่ห่อใบเตย  

    CHICKEN WRAPPED IN PANDAN LEAF 

     เครื่องปรุง + ส่วนผสม  อาหารไทย อร่อยๆที่เราไม่ค่อยได้ทานกันและก็หาร้านที่ทำอร่อยยาก
                                    วันนี้เราขอนำเสนอ สูตร ไก่ห่อใบเตย ทำเองที่บ้าน ลองทำกันดูนะครับ                    
* เนื้ออกไก่ 500 กรัม (ลอกหนัง, หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเพื่อให้ง่าย  ต่อการห่อใบเตย)
* รากผักชี 5 ต้น (ทำความสะอาดและสับให้ละเอียด)
* กระเทียมทุบ 4 กลีบ
* พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
* ซ๊อสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันงา 1/2 ช้อนโต๊ะ



* ใบเตย (ล้างและทำความสะอาด เพื่อใช้สำหรับห่อไก่)
* น้ำมันพืชสำหรับทอด

ส่วนผสม + เครื่องปรุง/น้ำจิ้มไก่ห่อใบเตย

* น้ำตาล 5 ช้อนโต๊ะ, น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ, ซิอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
* ซิอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 1/2 ช้อนชา, งาคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ





 
     ขั้นตอนการทำ

1. ผสมกระเทียม, พริกไทย, ซ๊อสหอยนางรม, รากผักชี, ซิอิ๊วขาว, น้ำมันงาและเนื้อไก่เข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง
2. ระหว่างรอเนื้อไก่ที่หมัก เตรียมทำน้ำจิ้ม โดยนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในกระทะและนำไปตั้งไฟอ่อนๆ คนจนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด รอจนกระทั่งส่วนผสมเดือดจึงปิดไฟ และตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มรอเสริฟ
3. นำเนื้อไก่ที่หมักแล้วไปห่อกับใบเตยที่เตรียมไว้ (สำหรับท่านที่ไม่เคยห่อ คลิ๊ก วิธีห่อไก่ใบเตย เพื่อดูวิธีห่อง่ายๆ ทีละขั้นตอน)
4. นำไก่ที่ห่อเสร็จแล้วไปนึ่งให้สุกประมาณ 10 นาที หลังจากนึ่งเสร็จแล้วจึงนำไก่ไปทอดจนสุกทั่ว นำออกมาสะเด็ดน้ำมัน
5. จัดไก่ห่อใบเตยในจานให้สวยงาน เสริฟพร้อมน้ำจิ้ม กับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะเป็นของว่างทานเล่นก็ได้..


 




ที่มา : EzyThaiCooking.com
Email : taajook@gmail.com
Tel :    0927908165

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

สูตร..การทำแกงส้มแป๊ะซะ!!

 สูตรอาหารไทย : แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน

[ HOT AND SOUR CURRY WITH FISH ]

อาหารไทยที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดชนิดหนี่งจะขาดไม่ได้คือ แกงส้มแป๊ะซะ ซดน้ำร้อนๆอร่อยพร้อมข้าวสวย ต้องยกมือให้ว่าสุดยอดจริงๆ.!!





     เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* น้ำพริกแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ

* ผักกระเฉดหั่นเป็นท่อนๆ 2 ถ้วยตวง

* ปลาช่อน 1 ตัว (น้ำหนักประมาณ 400 - 600 กรัม หรือใช้ปลาอื่นก็ได้)

* น้ำตาลโตนด 2 ช้อนชา (หรือใช้น้ำตาลปี๊บแทนก็ได้)

* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
 
* น้ำมะขามเปี้ยก 3 ช้อนโต๊ะ

* น้ำต้มกระดูกหมู 3 ถ้วยตวง (หรือใช้น้ำเปล่าแทนก็ได้)


* ผักสดอื่นๆ (ถ้าต้องการใส่เพิ่ม เช่น ถั่วฝักยาว, ข้าวโพดอ่อน, ดอกแค, อื่นๆ)




   วิธีขั้นตอนการทำ
 

1. ทำความสะอาดปลา (ขอดเกล็ด+ควักไส้ออก) หั่นปลาเป็นท่อน หรือจะต้มทั้งตัวก็ได้

2. ใส่น้ำซุปหรือน้ำเปล่าลงในหม้อ นำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลางจนเดือดจึงใส่น้ำพริกแกงส้มลงไป

 
3. รอจนน้ำเดือดอีกครั้งจึงใส่ปลาลงไปต้ม ทิ้งไว้สักพัก อย่าเพิ่งคนเพราะจะทำให้เหม็นคาว รอจนปลาเกือบสุก จึงปรุงรสด้วยน้ำตาล, น้ำปลาและน้ำมะขามเปียก (กรณีต้องการทำปลาทอด ก็นำปลาไปทอดจนเหลืองกรอบ ก่อนที่จะนำมาใส่ในแกงส้ม)

4. พอน้ำเริ่มเดือดอีกครั้งจึงใส่ผักสดต่างๆที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีกสักพักจนผักสุก จึงปิดไฟ

5. ตักใส่ถ้วย เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ






แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน


 แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อนใส่ดอกแคก็อร่อย..สุดยอดต้อนรับลมหนาว




หมายเหตุ :ที่มา
 EzyThaiCooking.com

Email : taajook@gmail.com
Tel : 0927908165

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

สูตร..การทำไก่สะเต๊ะ / น้ำจิ้ม

สะเต๊ะ...เป็นอาหารประเภทเนื้อที่หั่นบางแล้วเสียบไม้ไผ่ นำไปย่างบนไฟ มีจุดกำเนิดจากประเทศอินโดนีเซีย สำหรับเนื้อที่ใช้ย่างนั้น เปลี่ยนได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว, เนื้อไก่, เนื้อหมู, เนื้อแกะ เป็นต้น ส่วนน้ำจิ้มนั้นแตกต่างกันตามสูตรของแต่ละที่ สำหรับคนไทยนิยมทานสะเต๊ะ กับน้ำจิ้มอาจาด+ซ๊อสถั่ว


เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* เนื้ออกไก่ 600 กรัม
* ขิงขนาดปานกลาง 1 ชิ้น (หั่นเป็นชิ้นบางๆ)
* ตะไำคร้ซอยละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ
* เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
* ลูกผักชีคั่ว 1/2 ช้อนชา
* ยี่หร่าผง 1/2 ช้อนชา
* พริกไทยผง 1/2 ช้อนชา
* ขมิ้นผง 1/2 ช้อนชา


* ผงกะหรี่ 1/2 ช้อนชา
* กระเทียมสับ 7 กลีบ
* กะทิ 1 ถ้วยตวง
* น้ำมันพืช 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
* ไม้สำหรับเสียบไก่เพื่อย่าง 1 ถุง




 
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. หั่นเนื้อไก่เป็นชิ้นยาว และบาง (ความกว้างประมาณ 1 นิ้ว)
2. ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกันในชามใบใหญ่ จากนั้นใส่กะทิลงไป คนให้เข้ากัน
3. ใส่เนื้อไก่ลงไปในเครื่องหมัก และทิ้งไว้ประมาณ 90 -120 นาที
4.นำไก่มาเสียบไม้เตรียมไว้ย่าง นำน้ำหมักที่เหลือไปอุ่นในหม้อจนกระทั่งเดือด
5. ย่างไก่ด้วยไฟร้อนปานกลาง ทาน้ำหมักเป็นครั้งคราวระหว่างกลับหน้า
6. เมื่อไก่สุกแล้ว จัดใส่จาน เสริฟพร้อมน้ำจิ้ม (ซ๊อสถั่ว + อาจาด)
 วิธีทำ น้ำจิ้มสะเต๊ะ (ซ๊อสถั่ว + อาจาด)
 เครื่องปรุง + ส่วนผสม
 
อาจาด (สำหรับน้ำจิ้มสะเต๊ะ) :
     * น้ำส้มสายชู 125 มิลลิลิตร
     * น้ำตาล 115 กรัม
     * แตงกวาซอย 1/2 ลูก
     * หอมแดงซอย 2 ลูก
     * พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด (เอาเม็ดออก, หั่นขวางเป็นแว่น)
     * ผักชี (สำหรับแต่งหน้า)
 
ซ๊อสถั่ว (สำหรับน้ำจิ้มสะเต๊ะ) :
     * น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนชา
     * เกลือ 1/2 ช้อนชา
     * น้ำตาลแดง 2 ช้อนโต๊ะ
     * กะทิ 1 ถ้วยตวง
     * น้ำร้อน 1/2 ถ้วยตวง
     * ถั่วลิสงบด 1/4 ถ้วยตวง
อาจาด
ซ๊อสถั่ว

 
     วิธีทำทีละขั้นตอน
วิธีทำอาจาด :
     1. นำน้ำส้มและน้ำตาลใส่หม้อและนำไปตั้งไฟอ่อนๆ คนจนกระทั่งน้ำตาลละลาย ปิดไฟ
     2. ปล่อยให้เย็น จากนั้นใส่แตงกวา, หอมแดง และพริก คนให้เข้ากัน
 
วิธีทำซ๊อสถั่ว :
     1. ผสมน้ำกะทิกับน้ำพริกแกงให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำตาล, เกลือ ให้รสหวานนำรสเผ็ด
     2. ใส่ถั่วลิสงบดลงไป และนำไปเคี่ยวบนไฟอ่อน
     3. ตักใส่ถ้วยน้ำจิ้ม เสริฟพร้อมกับไก่สะเต๊ะ (หรือหมูสะเต๊ะ)
(สำหรับ 2 ท่าน)
หมายเหตุ : ที่มา EzyThaiCooking.com


Email : taajook@gmail.com
Tel : 0927908165

สูตร..แกงเผ็ดเป็ดย่าง


เป็น เมนูอร่อยรสเลิศ ที่อาจจะไม่สามารถหาทานได้ง่ายๆ เนื่องจากเป็ดย่างที่มีราคาสูง ทำให้ไม่ค่อยได้พบในเมนู ร้านขายข้าวแกงปกติทั่วไป แต่ด้วยความนิยมในรสชาติที่กลมกล่อมของแกงกะทิกับสมุนไพร และเป็ดย่าง ทำให้ยังพอหาทานได้ตามภัตาคาร ร้านอาหาร รวมถึงงานพิเศษในโอกาสต่างๆเช่น ทำบุญบ้าน, ขึ้นบ้านใหม่, เป็นต้น สำหรับตัวเป็ดย่าง สามารถซื้อสำเร็จแล้วนำมาแกง หรือจะย่างเองก็ได้ แต่อาจจะยุ่งยากหน่อย แต่รับรองได้ว่าเมื่อทำเสร็จแล้ว เสริฟทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ จะลืมความเหนื่อยไปเลย . . .
    

เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* เป็ดย่าง 1 ตัว (เลาะเอากระดูกออก หั่นเป็นชิ้น พอดีคำ)
* สัปปะรด 5 ชิ้น (หั่นเป็นชิ้นเล็ก พอดีคำ)
* ใบมะกรูด 4 ใบ (ซอยหยาบๆ)
* น้ำตาล 1 ช้อนชา
* กระทิ 2 1/2 ถ้วยตวง
* มะเขือเทศเล็ก 8 ลูก
* เกลือ 1/2 ช้อนชา
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง (หรือน้ำซุปไก่)
* น้ำมันพืช 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ 




 วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ตั้งน้ำมันบนกระทะจนร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัด จากนั้นใส่กระทิ 3/4 ถ้วยตวงลงไปผัดด้วย (น้ำกระทิที่เหลือเ็ก็บไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป) ผัดจนกระทิกับเครื่องแกงเข้ากันทั่ว
2. ใส่เนื้อเป็ดที่หั่นไว้แล้ว และคนสักพักให้ทั่ว จากนั้นจึงเทส่วนผสมทั้งหมดย้ายไปยังหม้อที่ใหญ่กว่า นำหม้อใหญ่ไปตั้งไฟและเติมกระทิส่วนที่เหลือ, น้ำเปล่า (หรือน้ำซุปไก่), มะเขือเทศ, สัปปะรด, ใบมะกรูด, น้ำตาล, เกลือ และน้ำปลา
3. คนส่วนผสมในหม้อให้เข้ากัน และรอจนเดือดจึงปิดไฟ ตักใส่ถ้วยและเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ..

Email : taajook@hotmail.com
Tel :0927908165



 



วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

สูตรการทำขนมครกสิงคโปร์

วิธีทำขนมครกสิงคโปร์ ขนมครกใบเตย เสริมอาชีพช่องทางทำกิน

คง เป็นที่รู้จักกันดีนะว่าขนมครกหน้าตามันเป็นยังไง ขนมโบราณที่ไม่โบราณ และยังเป็นที่นิยมของคนทุกกลุ่มวัย วันนี้เองจะมาแนะนำอาชีพอิสระทำเงินกัน นั้นก็คืออาชีพขายขนมครกสิงคโปร์หรือขนมครกใบเตยนั้นเอง ขนมที่ว่านี้หน้าตาของมันบางท่านอาจจะยังไม่คุ้น แต่บางท่านรู้ดีเลยละครับกินกันทุกวัน ปกติแล้วเรารับประทานขนมครกแบบไทย ๆ กันซะเป็นส่วนใหญ่ จะมีหน้าของขนมแบบต่าง ๆ มากมาย อย่างเช่น หน้าต้นหอม,หน้าข้าวโพด,เผือก,มัน,ฟักทอง เท่าที่เป็นที่นิยมกัน เรื่องราคานับว่ายังถูกหาซื้อได้ง่ายตามตลาด หรือในย่านชุมชน แล้วเจ้าขนมสิงคโปร์ล่ะเราก็มาดูกันเลยว่าจะสามาถนำไปประกอบอาชีพอะไรได้ บ้าง จากประสบการณ์พ่อค้า ลุงพนา มีประสบการณ์มาแล้วห้าถึงหกปี จะมาแนะนำทุกคนให้รู้จักกัน





ลุงพนา หรือ พนา เดชสุภา พ่อค้าขาย ขนมครกสิงคโปร์ (ใบเตย) เล่าให้ฟังถึงที่มาของอาชีพนี้ว่า เมื่อก่อนมีอาชีพขับรถบรรทุกรับส่งสินค้าตามโรงงานและท่าเรือแหลมฉบังหลาย สิบปี เรียกว่าขับรถกันตั้งแต่หนุ่มจนแก่ เหนื่อยมากร่างกายไม่ได้พักผ่อน ตอนหลังก็เริ่มรับไม่ไหว ส่วนแฟนคือ ป้าจินดา ก็ทำนาอยู่ที่บ้าน ทำกันจนล้มป่วย ทำต่อไม่ไหว
“ทุกวันหยุดลูกสาวอยากจะมีรายได้พิเศษ จึงไปช่วยน้าสาวขายขนม ก็เป็นพวกขนมครกสิงคโปร์ ขนมบ้าบิ่น โตเกียว พอปิดเทอมใหญ่ลูกสาวก็มาบอกว่าอยากจะทำขนมขายเอง ให้ช่วยซื้ออุปกรณ์ทำขนมให้หน่อย ลูกคิดดี ก็สนับสนุนเต็มที่ ตอนที่ลูกทำเราก็นั่งดูลูกจนทำเป็น ที่นี้พอเปิดเทอมอุปกรณ์ก็กองทิ้งอยู่อย่างนั้น ก็นึกเสียดาย ประกอบกับว่างงานพอดี ก็ปรึกษากับแฟนว่าน่าจะช่วยกันทำขนมขายดีกว่า เมื่อตัดสินใจแล้วก็ทดลองทำดู และปรับสูตรขนมครกสิงคโปร์จากกะทิล้วน ๆ ก็ใส่นมสดด้วยเพื่อเพิ่มความหอมมันให้รสชาติกลมกล่อมอร่อยยิ่งขึ้น ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเราจะทำได้ ทำไปทำมากลายเป็นอาชีพหลักใช้เลี้ยงครอบครัวมา 5-6 ปีแล้ว ไปไหนเราก็ไปด้วยกัน ทำด้วยกัน ขายด้วยกัน”

วัสดุ/อุปกรณ์ที่สำคัญ ๆ

ที่ต้องใช้ในการทำ “ขนมครกสิงคโปร์” ก็มี… พิมพ์เหล็กลายดอกมะยมที่มีฝาปิด, เตาแก๊ส, ไม้แซะขนม, กระบวยหรือกาน้ำขนาดเหมาะมือ (ใช้สำหรับหยอดขนม), ถาดสแตนเลสสี่เหลี่ยมผืนผ้า, ถัง, ทัพพี, ที่ร่อนแป้ง และเครื่องใช้อื่น ๆ ที่สามารถหยิบฉวยเอาได้จากในครัว
ส่วนผสม/วัตถุดิบหลัก ๆ ของขนมครกสิงคโปร์ ตามสูตรก็มี… แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 กก, แป้งมันสำปะหลัง ฝ กก., ไข่ไก่ 12 ฟอง, น้ำกะทิ (รวมหัว-หาง ) 2 กก., น้ำตาลทราย, นมสด, ใบเตยหอม 15 ใบ, ผงฟู, เกลือ และเนย



วิธีการทำขนมครกสิงคโปร์

เริ่มจากนำแป้งสาลีกับแป้งมันสำปะหลังมาผสมกับผงฟู แล้วทำการร่อนแป้งที่ผสมกับผงฟูใส่ไว้ในภาชนะ เพื่อให้อากาศผสมในแป้ง และทำให้แป้งขนมเบาขึ้น จากนั้นนำเอาใบเตยหอมมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น นำไปโขลกหรือปั่นให้ละเอียด นำมาคั้นกับน้ำ แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเอากากออก ตั้งพักไว้สักครู่
นำน้ำตาลทรายใส่ลงในแป้ง ตามด้วยเกลือนิดหน่อย ใช้มือเคล้า ๆ พอให้ทั่ว ใส่ไข่ไก่ตามลงไปในแป้ง ใช้มือนวดเบา ๆ พอให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วค่อย ๆ ใส่น้ำกะทิ และนมสด ตามลงไปทีละน้อย เสร็จแล้วจึงใส่น้ำคั้นใบเตย ใช้ทัพพีคนไปเรื่อย ๆ จนนำตาลละลายและส่วนผสมเข้ากันดี ตั้งพักไว้ประมาณ 20 นาที
ระหว่างรอให้แป้งเซ็ตตัว ให้นำพิมพ์ขนมสำหรับทำขนมมาเตรียมไว้ ตั้งไฟให้ร้อนจัด ใช้แปรงหรือผ้าจุ่มน้ำมันพืชหรือเนย ทาพิมพ์ขนมให้ทั่ว (เพื่อช่วยให้ขนมร่อนและไม่ติดพิมพ์)
พอพิมพ์ร้อนดีแล้วตักแป้งใส่กระบวยหรือกาน้ำที่ถนัดมือ แล้วทำการหยอดแป้งลงในพิมพ์แต่ละช่องให้เต็มหลุม ปิดฝาจนขนมสุก ใช้ไฟอ่อน ๆ ประมาณ 2-3 นาที (ถ้าใช้ไฟแรงขนมจะไหม้เสียหมด) ไม่ต้องกลับด้านเพราะขนมจะสุกทั่วได้เอง พอขนมสุกจะฟู ใช้ไม้หรือเหล็กแซะแคะขนมออกจากพิมพ์มาแผ่ไว้บนตะแกรงที่เตรียมไว้ รอให้ขนมพออุ่น ๆ (การหยอดแป้งครั้งต่อไปไม่ต้องใช้น้ำมันหรือเนยเช็ดพิมพ์แล้ว)


เอกลักษณ์ของขนมครก
สูตรนี้นั้น อยู่ที่รสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นหอมใบเตย สีสันสวยงาม ตัวขนมจะมีลักษณะเหนียวนุ่มน่ารับประทาน
สำหรับราคาขายขนมครกสิงคโปร์ ชุดละ 20 บาท มีขนม 8 ชิ้น มีต้นทุนวัตถุดิบประมาณ 60% ของราคา นอกจากนี้ลุงพนายังทำขนมแป้งจี่ และขนมโตเกียว ขายชุดละ 20 บาท ชุดหนึ่งมี 8 ชิ้น

ต้นทุนโดยประมาณทุนอุปกรณ์ ประมาณ 4,000 บาท

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60% ของราคาขาย
รายได้ ขายราคา 8 ชิ้น 20 บาท
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านชุมชน, ตลาดนัดทั่วไป

จุดน่าสนใจ ทำขายได้ทั้งเช้า-เย็น-ค่ำ
ขนมครกสิงคโปร์หรือขนมครกใบเตยเจ้านี้ ทุกวันจันทร์ พฤหัสฯ จะขายที่อินเตอร์โซน, วันศุกร์ ขายอยู่ตรงประตูเชียงราก ในมหาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต, วันอังคาร ขายที่มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี, วันพุธ ขายอยู่ที่ มศว.คลอง 16, เสาร์-อาทิตย์ ขายตามตลาดนัดต่าง ๆ และรับทำไปออกงานต่าง ๆ โดย ติดต่อลุงพนาได้ที่ โทร.08-9153-1346 ซึ่งจากที่ว่ามาก็จะเห็นได้ว่า นี่ก็เป็นอีกช่องทางทำกิน ที่น่าพิจารณา

 ที่มา :เดลินิวส์
Email : taajook@gmail.com
Tel : 0927908165

สูตร..ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น

สูตร..ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น
วันนี้ขอนำเสนอก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น สูตรอร่อย ให้สมาชิก /เพื่อนๆได้ลองทำกินกันในครอบครัวหรือจะทำขายก็ไม่ว่ากันครับ.!!


ส่วนผสม (สำหรับ 10 ที่)

  • เส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดที่ชอบ เส้นเล็ก 1 กิโลกรัม
  • ถั่วงอก 300 กรัม
  • ผักคะน้าหรือผักบุ้งไทยหั่นท่อน (ไม่ใส่ก็ได้) 200 กรัม
  • เนื้อวัวส่วนน่องสะโพกและสมชั่นหั่นเต๋ารวมกัน 1 กิโลกรัม
  • ลูกชิ้นเนื้อ 30 ลูก ตามชอบ
  • กระเทียมเจียวสำหรับโรยหน้า
  • ขึ้นฉ่ายซอยสำหรับโรยหน้า
  • พวกเครื่องปรุงสำหรับเสิร์ฟคู่กัน.!!



ส่วนผสมน้ำซุป

  • กระดูดวัว 1 กิโลกรัม
  • รากผักชี 10 ราก
  • กระเทียมกลีบใหญ่บุบ 10 กลีบ
  • พริกไทยดำเม็ด 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • ข่าหั่นท่อนบุบ 1 แว่น   
  • โป๊ยกั้กคั่ว 2 ดอก
  • อบเชยคั่ว 1 แท่งเล็กลูกกระวาน 7 ลูก
  • ใบกระวาน 2 ใบ
  • น้ำตาลกรวด 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 – 4 ถ้วย
  • ซอสปรุงรส 1 – 4 ถ้วย
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 30 ถ้วย               

วิธีทำ

  1. ใส่น้ำและกระดูกวัวลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟแรงพอเดือ หรี่ไฟกบาง ช้อนฟองทิ้ง ใส่เนื้อวัวลงต้ม
  2. ใส่รากผักชี? กระเทียมพริกไทยดำ ข่า โป๊ยกั๊ก? อบเชย? ลูกกระวาน และใบกระวานลงในหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ ซีอิ๊วขาว? และซอสปรุงรสต้มด้วยไฟกลางจนเดือด หมั่นช้อนฟองทิ้ง
  3. หรี่ไฟอ่อนเคี่ยวต่ออีกอย่างน้อย 3 ชั่วโมงหรือจนกว่าเนื้อจะเปื่อย ชิมรสตามชอบ? ใส่ลูกชิ้นลงต้มให้สุก (สังเกตว่าลูกชิ้นลอยขึ้นมา)
  4. ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ชาม? ลวกผักคะน้าและถั่วงอกตามลงไป? ตักเนื้อตุ๋นและลูกชิ้นใสชาม
  5. ตำน้ำซุปร้อน ๆ ราด ให้พอท่วมโรยกระเทียมเจียวและขึ้นฉ่ายซอย เสิร์ฟกับพวงเครื่องปรุง

ขอบคุณก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น หนังสือในเครืออมรินทร์
 Email : taajook@gmail.com
Tel : 0927908165

.การทำไอครีมกะทิสด

สูตร..การทำไอครีมกะทิสด!!




เครื่องปรุงไอศครีมกะทิสด

กะทิกระป๋อง (ขนาด 400 มล) 1 กระป๋อง
น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
น้ำเปล่า ¼ ถ้วย
เกลือป่น ¼ ช้อนชา
เนื้อมะพร้าวอ่อน 80 กรัม
หากทำเป็นจำนวนมากๆหรือทำขาย ก็เพิ่มตามอัตราส่วน  เป็นสองเท่าหรือสามเท่าตามต้องการ    




วิธีทำไอศครีมกะทิสด

1.เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าลงในหม้อ คนจนน้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อมจึงใส่กะทิกระป๋องลงในน้ำเชื่อม เติมเกลือป่นลงไป คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน

2.นำเนื้อมะพร้าวอ่อนมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ลงในส่วนผสมกะทิ จากนั้น นำส่วนผสมที่ได้ เข้าไปแช่ในช่องแข็งประมาณ 30-45 นาที หรือจนเย็นจัด
3.เทส่วนที่เย็นจัดลงในถังปั่นไอศกรีม ปั่นจนส่วนผสมแข็งตัว ก็จะได้ไอศกรีมกะทิหวานมัน ทำสักสองครั้งก็จะได้ไอสครีมเนื่อเนียนอร่อยๆ 

4. ตักใส่ถ้วย ตกแต่งตามชอบ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ


ไอสครีมกะทิมะพร้าวอ่อน



ในการทำไอสครีมนั้นอาจมีส่วนผสมมากกว่าสูตรที่ให้ไว้..แต่เราจะใส่เพิ่มหรือไม่ก็ได้เหมือนในวีดีโอเพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนที่มากเกินความจำเป็น








สาธิตการทำไอสครีม






Email : taajook@gmail.com

ขอบคุณ Food Travel.tv



ไก่ทอดหาดใหญ่


 "ไก่ทอดหาดใหญ่"



 ไก่ทอด หาดใหญ่
ส่วนผสมของไก่ทอดหาดใหญ่                
             
- ไก่ 1 กิโลกรัม
- กระเทียมไทยกรีบเล็ก 40 กลีบ
- พริกไทยเม็ด 30-40 เม็ด                                                          
- ลูกผักชีป่น 2 ช้อนชา                                                          
- ยี่หร่าป่น 1/2 ช้อนชา
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทรายแดง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลีหรือแป้งข้าวเจ้า 4-5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช สำหรับทอด วิธีทำ ไก่ทอดหาดใหญ่  



1.ล้างไก่ให้สะอาด พักในตระแกรงให้สะเด็ดน้ำ
2.โขลก กระเทียม พริกไทย ลูกผักชี และยี่หร่า เข้าด้วยกันให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับซอสปรุงรส เกลือป่น และน้ำตาลทรายแดง คลุกส่วนผสม ทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วจึงนำไปหมักกับไก่อย่างน้อย 3 ชั่วโมง
3.เมื่อหมักไก่ตามเวลาที่กำหนดจนได้ที่แล้ว จึงใส่แป้งสาลีลงไปในไก่ที่เราหมักเอาไว้ จากนั้นคลุกให้ส่วนผสมเข้ากันดี
4.นำไก่ทอดในน้ำมันพืช จนสุกเป็นสีน้ำตาลทอง ตักขึ้น พักในตะแกรงจนสะเด็ดน้ำมัน รับประทานคู่กับหอมเจียว น้ำจิ้ม และข้าวเหนียวร้อนๆ

หมายเหตุ
- สามารถใช้น้ำตาลทราบธรรมดาแทนน้ำตาลทรายแดงได้
- กระเทียมกลีบเล็ก จะให้รสชาติที่อร่อยกว่ากระเทียมกลีบใหญ่ แต่หากหาไม่ได้ก็ใช้กระเทียมกลีบใหญ่แทนได้
- ส่วนผสมแป้งจะใส่หรือไม่ก็ได้ ถ้าหากจะใส่ ให้ไส่เป็นอันดับสุกท้าย คือใส่ก่อนที่จะนำไปทอด ห้ามใส่ลงไปหมักกับไก่ตั้งแต่แรกพร้อมกับส่วนผสมอื่นๆ โดยเด็ดขาด เพราะถ้าใส่แป้งลงไปตั้งแต่แรก แป้งจะดูดรสชาติของน้ำหมักไปหมด ทำให้ไก้จืดไม่มีรสชาติ

น้ำจิ้มไก่ทอดหาดใหญ่สูตรพริกสด
- พริกชี้ฟ้าสีแดงโขลกละเอียด 10 กรัม
- กระเทียมสับละเอียด 30 - 40 กรัม
- รากผักชี 4 กรัม
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- น้ำส้มสายชู 50 มิลลิลิตร

วิธีทำน้ำจิ้มสูตรพริกสดของไก่ทอดหาดใหญ่
1. โขลกพริกชี้ฟ้าและรากผักชีให้ละเอียด
2. ผสมน้ำตาลเกลือป่น และน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟ คนให้น้ำตาลทรายและเกลือป่นละลาย
3. ผสมกระเทียมสับ พริกชี้ฟ้า และรากผักชี ที่โขลกละเอียด ลงไปในส่วนผสมน้ำจิ้ม ที่ตั้งไฟไว้
4. ตั้งไฟต่อจนน้ำจิ้มเดือดอีกครั้ง ใช้รับประทานคู่กับไก่ทอดหาดใหญ่


                          



ขอบคุณข้อมูล ช่องทางทำกิน